วันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2558



ประวัติความเป็นมา
           จังหวัดสุรินทร์เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีวัฒนธรรมการทอผ้าไหมมานานและได้สืบทอดเป็นมรดกทางวัฒนธรรมมานานจนเป็นเอกลักษณ์ของตนเองที่น่าสนใจยิ่ง  หากศึกษาอย่างลึกซึ่งแล้ว  จะค้นพบเหตุผลหลายประการที่สนับสนุนว่า  จังหวัดสุรินทร์มีเอกลักษณ์เฉพาะของตนเองในเรื่องผ้าไหม  ตลอดจนประเพณีวัฒนธรรมต่าง ๆ   ซึ่งส่งผลต่อการผลิตและการทอ  ไม่ว่าจะเป็นลวดลายของผ้าไหม  การผลิตเส้นไหมน้อย  และกรรมวิธีการทอ
          จังหวัดสุรินทร์นิยมนำเส้นไหมขั้นหนึ่งหรือไหมน้อย (ภาษาเขมร เรียก โซกซัก”)  มาใช้ในการทอผ้า  ไหมน้อยจะมีลักษณะเป็นผ้าไหมเส้นเล็ก  เรียบ  นิ่ม  เวลาสวมใส่จะรู้สึกเย็นสบาย  นอกจากนี้การทอผ้าไหมของจังหวัดสุรินทร์  ยังมีกรรมวิธีการทอที่สลับซับซ้อน  และเป็นกรรมวิธีที่ยาก  ซึ่งต้องใช้ความสามารถและความชำนาญจริง  เช่น การทอผ้ามัดหมี่พร้อมยกดอกไปในตัว  ซึ่งทำให้ผ้าไหมที่ได้เป็นผ้าเนื้อแน่นมีคุณค่า  มีการทอที่เดียวใบประเทศไทย  จนเป็นที่สนพระทัยและเป็นที่ชื่นชอบของสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ  ทรงรับสั่งว่า  ใส่แล้วเย็นสบาย  อีกทั้งยังใช้ฝีมือในการทออีกด้วย
         ภาพของลายผ้าไหมที่มีความสวยงาม ความประณีต ความละเอียดอ่อน และความใสใจของผู้ที่ทอผ้าไหม เพื่อที่จะให้ลายของผ้าแต่ละลายออกมามีความสวยงามน่าประทับใจ และยังเป็นที่น่าภาคภูมิใจมากสำหรับชาวสุรินทร์ของเราที่สามารถมีลวดลายผ้าไหมที่ออกมาสวยงามได้มากขนาดนี้ ตัวอย่างของลายผ้าไหมที่มีความสวยงามละเอียดอ่อน และมีประวัติที่ยาวนาน


ผ้าไหมมัดหมี่เชิงแดงลูกแก้ว
          เป็นผ้าที่แกะรูปแบบจากการแต่งกายของชาวสุรินทร์ในพิธีรำสาก ซึ่งถือเป็นขนมธรรมเนียมประเพณีของชาวสุรินทร์ช้านาน ผ้านุ่งที่ใช้แต่งนั้นเป็นผ้าไหมมัดหมี่ที่มีการต่อเชิงบน ที่เรียกว่าปะโบว์ เรียกว่า มัดหมี่เชิง ผ้าไหมที่ใช้ในการผลิต เรียกว่า ไหมน้อย พลิ้วไหว อ่อนนุ่ม อันเป็นเอกลักษณ์พิเศษของไหมสุรินทร์


ผ้าไหมลายราชวัตร
          ผ้าไหมยกดอกลายราชวัตร เป็นผ้าไหมที่ทอโดยสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ และเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น ตอนหลังมีการพัฒนาและประยุกต์เป็นลวดลายต่างๆปัจจุบันการทอผ้าไหมลายราชวัตร โดยใช้สีธรรมชาติและสีเคมีการย้อมสีธรรมชาตินั้นให้เปลือกไม้มาย้อมเป็นสีต่างๆและเป็นที่ต้องการของตลาด


ผ้าไหมยกดอก
          เป็นการทอผ้าด้วยมือ มีลวดลายสวยงานสะดุดตาเป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่นเป็นเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรม ประเพณี ที่ดีงามของคนไทย จึงจำเป็นต้องรักษาไว้


ผ้าไหมหมัดหมี่ลายลูกแก้ว
          ผ้าไหมมัดหมี่ลายลูกแก้ว เป็นผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติมีลวดลายเป็นทรงพุ่ม ชื่อลายมงกฎเพชร เป็นภูมิปัญญาที่สืบทอดกันมา มีการมัดลายที่ประณีต งามตา และมีขั้นตอนการผลิตที่เน้นความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และผู้บริโภคผลิตจากเส้นไหมแท้เป็นสำคัญ


ผ้าไหมมัดหมี่ ลายโฮลเปราะห์
          ผ้าไหมมัดหมี่ ลายโฮลเปราะห์ เป็นผลิตภัณฑ์ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่นจากลายโฮล (โฮลสตรี) เดิมสู่ลายโฮลเปราะห์ (โฮลบุรุษ) เป็นผืนผ้าที่รวมความปรานีตด้วยลวดลายอันวิจิตร ใช้ทักษะขั้นสูงของการมัดย้อมไหมที่ละเอียดและได้สีสันที่สวยงามโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์นิยมใช้นุ่งห่มในงานบุญประเพณีสำคัญ


ผ้าไหมลายอัมปรม
          ผ้าไหมลายอัมปรม ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ดั้งเดิม ทอผ้าด้วยมือ มีความประณีต ทุกกระบวนการผลิต สั่งสมภูมิปัญญาท้องถิ่นและประยุกต์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ความต้องการในปัจจุบันได้อย่างลงตัว เส้นไหมที่ทอเป็นเส้นไหมแท้ ที่ชาวบ้านเลี้ยงเองในชุมชน


ผ้าไหมยกดอก
          ผ้ายกดอกลวดลายสวยงาม เป็นการทำลายโดยการเก็บตะกอ โดยลายจะนูนมาเหนือผ้า ผ้ายกเป็นผ้าที่มีคุณค่ามากเป็นผ้าชั้นสูงที่เหมาะสำหรับสวมใส่ออกงานพิธีสำคัญต่างๆ มีตะกอ  ตั้ง 10 – 60 ตะกอ ผ้ายกดอกมีความสวยงาม เนื้อแน่น สม่ำเสมอ ใช้ไหมคุณภาพดี


ผ้าทอมือลายขัด (พื้นเรียบ)
          ผ้าทอมือลายขัด เป็นผ้าพื้นเมืองสุรินทร์ โดยประยุกต์ลายมาจากผ้าพื้นเรียบเป็นผ้าพื้น 2 ตะกอ (ลายขัดพื้นฐาน) เส้นยืนสีดำ หมายถึง ความเป็นสามชนเผ่าของชาติพันธ์เขมร ลาว ส่วย เส้นพุ่งใช้สีพื้น สีชมพู หมายถึง ความปรองดองสมัครสมานสามัคคีของชาวอำเภอจอมพระ การทอชายผ้ายังคงอนุรักษ์การทอหน้านาง ที่เป็นชายจั๋วทางสามเหลี่ยม (ภาษาเขมร เรียก เจียยจั๋ว) ซึ่งเป็นลายดั้งเดิมของผ้าทอชาวเขมรในสมัยโบราณ


ผ้าไหมมัดหมี่
          เป็นผ้าไหมที่ทอจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ เป็นผ้าไหมมัดหมี่ยกดอก ลวดลายสวยงาม มีหลายตะกอ ลวดลายเป็นเอกลักษณ์สื่อถึงความเป็นมาของลวดลาย
ทุเรียนมีดีอย่างไร?

              ทุเรียนเป็นผลไม้ที่ดิฉันชื่นชอบเป็นอย่างมาก ถ้าหากพูดถึงทุเรียนแล้วไม่อดที่จะน้ำลายจะไล่ แต่สำหรับบ้างคนพูดถึงทุเรียนไม่ได้เป็นอันต้องสะอิดสะเอียนในกลิ่นของมัน เพราะทุเรียนมีกลิ่นแรงมาก และทุเรียนยังเป็นผลไม้ที่กว่าจะปอกเปลือกได้กินเอาซะมือระบมหมด เพราะทุเรียนมีเปลือกที่มีหนามที่แหลม (อยากขนาดนี้ยังจะชอบกิน ??????) แต่ต่อให้ลำบากขนาดไหนก็สู้คะ เนื้อของมันอร่อยมากน๊ค่ะขอบอกถึงกลิ่นไม่ได้แต่รถชาตินี้ได้ลองกินแล้วจะติดใจไปตามๆๆๆกันน๊ค่ะ และทุเรียนไม่เพียงแค่มีรถชาติอร่อยเท่านั้นน๊ค่ะยังมีสรรพคุณอีกมากมายเลยที่เดียว และอีกอย่างทุเรียนนั้นมีราคาที่แพงมากกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆๆ ในหนึ่งปีจะมีฤดูของมันให้เราได้รับประทานกัน ไร้สาระมาเยอะแหละเรามาหาสาระดีๆเกียวกับทุเรียนกันดีกว่าน๊ค่ะ ตามกันมาเลย อิอิ
              

ทุเรียน

          ทุเรียน ภาษาอังกฤษ Durian (มาจากคำว่า duri ในภาษามาเลย์ซึ่งแปลว่า “หนาม”) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Durio zibethinus Linn. ทุเรียนเป็นผลไม้ที่อยู่วงศ์ฝ้าย ในสกุลทุเรียน (แต่นักอนุกรมวิธานบางท่านจัดให้ทุเรียนอยู่ในวงศ์ทุเรียน) ทุเรียนจัดว่าเป็นราชาผลไม้ไทย โดยเป็นพืชพื้นเมืองของประเทศมาเลเซีย อินโดนีเซีย และบรูไน โดยลักษณะของผลทุเรียนจะมีขนาดใหญ่ ผลรีถึงกลม และมีเปลือก( สีเขียวถึงสีน้ำตาล) ที่ปกคลุมไปด้วยหนามแข็ง ผลทุเรียนอาจมีเส้นผ่าศูนย์กลางของผลยาวถึง 15 ซม. น้ำหนักโดยทั่วไปประมาณ 1-3 กิโลกรัม และมีเนื้อที่นำมารับประทานเป็นสีเหลืองซีดจนถึงสีแดง ซึ่งจะแตกต่างกันออกไปตามสายพันธุ์
ประโยชน์ของทุเรียน           ทุเรียนนั้นมีมากกว่า 30 ชนิด แต่มีเพียง 9 ชนิดเท่านั้นที่สามารถรับประทานได้ ซึ่งได้แก่ ซึ่งมีดังนี้ Durio zibethinus, Durio dulcis, Durio grandiflorus, Durio graveolens, Durio kutejensis, Durio lowianus, Durio macrantha, Durio oxleyanus และ Durio testudinarum แต่มีเพียงสายพันธุ์ Durio zibethinus ชนิดเดียวเท่านั้นที่ได้รับความนิยมทั่วโลก และชนิดนี้ก็แบ่งแยกย่อยไปอีกมากกว่า 200 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์ได้รับความนิยมและปลูกกันมากก็คือ พันธุ์หมอนทอง ชะนี กระดุมทอง และพันธุ์ก้านยาว เป็นต้น
           ทุเรียนเป็นผลไม้ที่กลิ่นเฉพาะตัว โดยเนื้อในจะเหมือนคัสตาร์ด มีรสชาติคล้ายอัลมอนด์ สำหรับบางคนนั้นบอกว่าทุเรียนมีกลิ่นหอม แต่ในขณะที่บางคนกลับมองว่ามันมีกลิ่นเหม็นรุนจนถึงขั้นสะอิดสะเอียนเลยทีเดียว (ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เขาห้ามนำทุเรียนเข้าไปในโรงแรมและการขนส่งสาธารณะ) ทุเรียนนั้นเราสามารถรับประทานทุเรียนได้ทั้งสุกและห่ามแล้วแต่คนชอบ นอกจานี้ยังนำไปใช้ทำอาหารได้อย่างหลากหลาย แม้แต่เมล็ดก็รับประทานได้แต่ต้องทำให้สุกก่อน

สรรพคุณของทุเรียน

  1. ช่วยทำให้ฝีแห้ง (เนื้อทุเรียน)
  2. สรรพคุณทุเรียนช่วยแก้โรคผิวหนัง (เนื้อทุเรียน)
  3. สารสกัดจากใบและรากทุเรียนใช้เป็นยาแก้ไข้ได้ ด้วยการใช้น้ำจากใยวางบนศีรษะของผู้ป่วยจะช่วยลดไข้ได้ (ราก,ใบ)
  4. ทุเรียน สรรพคุณช่วยแก้อาการท้องร่วง (ราก)
  5. สรรพคุณของทุเรียนช่วยขับพยาธิ (ใบ,เนื้อทุเรียน)
  6. ทุเรียนทุเรียน สรรพคุณทางยาช่วยแก้ดีซ่าน (ใบ)
  7. ช่วยทำให้หนองแห้ง (ใบ)
  8. ช่วยแก้ตานซาง (เปลือก)
  9. ช่วยรักษาโรคคางทูม (เปลือก)
  10. ช่วยแก้น้ำเหลืองเสีย (เปลือก)
  11. ช่วยแก้ฝี (เปลือก)
  12. ช่วยรักษาแผลพุพอง (เปลือก)
  13. ใช้สมานแผล (เปลือก)
  14. เปลือกทุเรียนใช้ไล่ยุงและแมลง (เปลือก)

ประโยชน์ของทุเรียน

  1. ทุเรียนพันธุ์หมอนทองสามารถช่วยลดระดับไขมันหรือคอเลสเตอรอลได้ เพราะทุเรียนสายพันธุ์นี้มีสารโพลีฟีนอล (Pholyphenols) และมีเส้นใยที่ช่วยลดไขมันได้ แต่ว่าต้องรับประทานแค่ 1 พูต่อวัน (นพ.กฤษดา ศิรามพุช)
  2. เนื่องจากทุเรียนมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (โดยเฉพาะพันธุ์หมอนทอง) การบริโภคทุเรียนในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการเกิดโรคในมนุษย์ได้ เช่น โรคหัวใจ และโรคมะเร็ง เป็นต้น
  3. แม้ทุเรียนจะมีไขมันมากก็ตาม แต่ก็เป็นไขมันชนิดดีที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย
  4. เส้นใยของทุเรียนมีส่วนช่วยในการขับถ่ายให้สะดวกยิ่งขึ้น
  5. ประโยชน์ทุเรียน ผลสามารถนำมาแปรรูปหรือทำเป็นขนมหวานได้หลายชนิด เช่น ลูกกวาดโบราณ, ขนมไหว้พระจันทร์, ขนมปังสอดไส้, ไอศกรีม, มิลก์เช็ก, เค้ก, คาปูชิโน, ข้าวเหนียวทุเรียน, เต็มโพยะก์, ทุเรียนดอง, ทุเรียนแช่อิ่ม, ทุเรียนกวน, ทุเรียนกรอบ, แยมทุเรียน ฯลฯ
  6. ทุเรียน ประโยชน์เมล็ดของทุเรียนสามารถรับประทานได้มานำมาทำให้สุกด้วยวิธีการคั่ว การทอดในน้ำมันมะพร้าว หรือการนึ่ง โดยเนื้อในจะมีลักษณะคล้ายกับเผือกหรือมันเทศแต่เหนียวกว่า
  7. ใบอ่อนหรือหน่อของทุเรียนสามารถนำมาใช้ทำอาหารบางอย่างคล้ายกับผักใบเขียวได้เช่นกัน
  8. เปลือกทุเรียนสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในรวมควันปลา
  9. ประโยชน์ของทุเรียน เปลือกสามารถนำมาผลิตทำเป็นกระดาษได้ ซึ่งจะมีเส้นใยเหนียวนุ่มและเหนียวกว่าเนื้อกระดาษสา
  10. ในประเทศอินโดนีเซียมีการนำดอกทุเรียนรับประทาน
  11. สำหรับความเชื่อในบ้านเรานั้น การปลูกต้นทุเรียนไว้ในบริเวณบ้าน (ปลูกทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) เชื่อว่าผู้อยู่อาศัยจะเป็นผู้มีความรู้ แก่วิชาการเรียน หรือเป็นผู้รู้มาก เพราะคำว่าทุเรียนมีเสียงพ้องกับเกี่ยวกับการเรียนนั่นเอง

คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อทุเรียนต่อ 100 กรัม

  • สรรพคุณของทุเรียนพลังงาน 174 กิโลแคลอรี่
  • คาร์โบไฮเดรต 27.09 กรัม
  • เส้นใย 3.8 กรัม
  • ไขมัน 5.33 กรัม
  • โปรตีน 1.47 กรัม
  • วิตามินเอ 44 หน่วยสากล
  • วิตามินบี1 0.374 มิลลิกรัม 33%
  • วิตามินบี2 0.2 มิลลิกรัม 17%
  • วิตามินบี3 1.74 มิลลิกรัม 7%
  • วิตามินบี5 0.23 มิลลิกรัม 5%
  • วิตามินบี6 0.316 มิลลิกรัม 24%
  • วิตามินบี9 36 ไมโครกรัม 9%
  • ประโยชน์ทุเรียน  วิตามินซี 19.7 มิลลิกรัม 24%
  • ธาตุแคลเซียม 6 มิลลิกรัม 1%
  • ธาตุเหล็ก 0.43 มิลลิกรัม 3%
  • ธาตุแมกนีเซียม 30 มิลลิกรัม 8%
  • ธาตุแมงกานีส 0.325 มิลลิกรัม 15%
  • ธาตุฟอสฟอรัส 39 มิลลิกรัม 6%
  • ธาตุโพแทสเซียม 436 มิลลิกรัม 9%
  • ธาตุโซเดียม 2 มิลลิกรัม 0%
  • ธาตุสังกะสี 0.28 มิลลิกรัม 3%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
โทษของทุเรียน : เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงและยังอุดมไปด้วยไปด้วยไขมันและกำมะถัน ผลไม้ชนิดนี้จึงไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน เพราะหากรับประทานเข้าไปอาจจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้รู้ไม่สบายเนื้อสบายตัว ทำให้เกิดร้อนในอีกด้วย และสำหรับบุคคลทั่วไปควรจะบริโภคแต่น้อย และยังมีความเชื่อโบราณที่ห้ามให้หญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่มีดันโลหิตสูงรับประทานทุเรียน และไม่ควรรับประทานทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟ เพราะเป็นของร้อนทั้งคู่ เดี๋ยวจะหลับไม่ตื่น ฟื้นไม่มีได้ !
        การแปรรูปของทุเรียนที่ทำให้เราสามารถที่จะเลือกกินได้ในหลายๆๆรูปแบบของเนื้อทุเรียน เพราะบ้างคนไม่ชอบในกลิ่นของทุเรียนสด ก็สามารถที่จะมากินทุเรียนแปรรูปได้เพราะกลิ่นของมันจะไม่แรงเท่าทุเรียนที่สด และยังสามารถช่วยเพิ่มรายในให้กับคนที่ปลูกทุเรียนอีกด้วน๊ค่ะ
ทุเรียนทอดกรอบ
ทุเรียนทอดกรอบ


ทุเรียนกวน
ทุเรียนกวน